อัพเดทใหม่ล่าสุดเมื่อ 22 มิถุนายน 2023

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าสูตรทำด้วยตัวเอง(DIY) นั้นใช้วิธีการที่หลากหลายและสามารถเลือกปรับแต่งได้มากที่สุด ดังนั้น เพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและสามารถทำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเองที่บ้านด้วยสูตรผสมส่วนตัว ในวันนี้ เราจึงอยากจะแนะนำวิธีการขั้นตอนและส่วนผสมให้แก่คุณทีละขั้นตอนโดยละเอียดไปพร้อมกันกับร้านบุหรี่ไฟฟ้าของเรา

ในปัจจุบัน มีตัวเลือกน้ำยาราคาถูกจำนวนมากในร้านบุหรี่ไฟฟ้า หากแต่ข้อมูลความรู้ด้านส่วนผสมของน้ำยากลับหาได้ยากและมีข้อข้างจำกัด อาจเพื่อลดการแข่งขันทางการตลาดของแบรนด์บุหรี่ไฟฟ้าต่างๆ ทำให้คู่มือผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าของเรามีจุดประสงค์เพื่อมอบความรู้และเครื่องมือที่จำเป็นในการผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า Pod พอตไฟฟ้าของคุณเอง ทั้งแนะนำส่วนผสมหลัก และส่วนผสมที่จำเป็น วิธีการผสมแบบต่างๆ การใช้เครื่องคำนวณไอระเหย(ความหนาแน่นของควัน) ตลอดจนถึงทคนิคลับสำคัญ

คู่มือวิธีการทำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า (DIY e-liquid) ของเราถือบทความพิเศษของตัวผู้เขียนเอง เพราะมันมีบทบาทสำคัญในขับเคลื่อนธุรกิจร้านบุหรี่ไฟฟ้า Podsamurai นำไปสู่เส้นทางแห่งการวิจัยและการทดลองนับไม่ถ้วน และการสร้างน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าตลอดระยะเวลาห้าปี ด้วยการลองผิดลองถูก จนเราได้กลายเป็นผู้จำหน่ายและคัดเลือกน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาพอตของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าหากคุณอ่านจนจบ คุณเองก็สามารถทำได้เช่นกัน

การทำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าด้วยตนเองอาจฟังดูซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วค่อนข้างตรงไปตรงมา มันเกี่ยวข้องกับการผสมส่วนผสมหลัก 3 อย่างเข้าด้วยกัน ได้แก่ 1.สารผสมพื้นฐาน PG VG และ 2.นิโคติน (ถ้าต้องการ) และ 3.สารปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติ

คุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีสำหรับการทำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ดังนั้น หากคุณสามารถผสมค็อกเทลได้ คุณก็สามารถทำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าของคุณเองได้

ทำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า (วิธีที่ง่ายที่สุด)

1. เตรียมอุปกรณ์

สาร PG VG
  1. เข้าร้านซื้อส่วนผสม VG และ PG หรือฟรีเบสสำเร็จรูปได้จากร้านขายสารผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ผ่าน Shopee เช่น Smart Chemi(สมาร์ทเคมี) ในปริมาณอย่างน้อย 100 มล. (สาร VG และ PG มักมีราคาถูก)
  2. เลือกซื้อขวดพลาสติก ขนาด 50มล. และปิเปตพลาสติก(หลอดดูดสารละลาย) มาให้พร้อม
  3. เลือกซื้อสารแต่งกลิ่นและรสเพื่อปรุงน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และนิโคติน(Nicotine) หากต้องการ
  4. ซื้อถุงมือเพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำยาขณะผสม

2. ผสมส่วนผสม

ผสมสารประกอบ
  1. ขั้นตอนแรกให้ใช้ปิเปตพลาสติก(หลอดดูดสารละลาย) ดูดสารแต่งกลิ่นและรสลงไปในขวดพลาสติกขนาด 50มล. ที่คุณเตรียมไว้ ประมาณ 10-20 หยด
  2. จากนั้นเติมสารนิโคตินประมาณ 2 – 4 หยด (หรือไม่ใส่ก็ได้)
  3. ให้คุณเติมสารประกอบ VG และ PG ที่คุณเตรียมมาลงไปในขวดพลาสติก โดยใช้อัตราส่วน VG 50% และ PG 50% (อย่างละครึ่ง) จนกว่าปริมาณน้ำในขวดจะเต็ม
  4. เขย่าขวดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันและปล่อยทิ้งไว้ 2 – 3 ชั่วโมงเพื่อให้ฟองอากาศหายไป

เสร็จสิ้น คุณได้รับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ทำด้วยตนเองจำนวน 1 ขวดในปริมาณ 50มล. สิ่งที่เหลือคือคุณแค่ทดลองปรับอัตราส่วนผสมจนกว่าจะได้กลิ่นและรสชาติที่คุณพึงพอใจ

โปรดทราบว่าวิธีนี้เป็นวิธีการผสมและทำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอย่างง่าย และอาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมนัก ถ้าหากคุณต้องการผสมนิโคตินเพิ่มขึ้น หรือต้องการรสชาติและกลิ่นที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องทำตามการชั่งและตวงที่เหมาะสม ซึ่งข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัยคือ อย่าประเมินปริมาณนิโคตินด้วยสายตาเพียงอย่างเดียว แม้ว่าวิธีการง่ายๆ นี้ไม่ต้องการความแม่นยำมากนัก แต่สิ่งสำคัญคือต้องใช้ความระมัดระวังเมื่อคุณรับสารที่เกี่ยวข้องกับนิโคตินเข้าสู่ร่างกาย

ผสมสารประกอบ

วิธีชั่งและตวงปริมาณน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า

เมื่อคุณเริ่มดำดิ่งสู่โลกของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบ DIY และสร้างหรือคิดค้นสูตรน้ำยาเอง การตัดสินใจอย่างแรกที่คุณจะต้องทำคือวิธีการผสมที่จะใช้ซึ่งมีให้เลือก 2 แนวทางหลัก โดยแต่ละแนวทางมีทั้งข้อดีและข้อควรพิจารณา ได้แก่

การผสมตามน้ำหนัก

สำหรับวิธีการผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าตามน้ำหนัก วิธีนี้เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องชั่งเพื่อวัดน้ำหนักของส่วนผสมแต่ละชนิด โดยคำนึงถึงค่าความถ่วงจำเพาะ(specific gravity) ตัวอย่างเช่น VG 1 มล. จะหนักกว่า PG หรือสารปรุงแต่งรส 1 มล. 

แม้ว่าวิธีนี้อาจฟังดูเป็นวิทยาศาสตร์ แต่คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับรายละเอียดปลีกย่อย เพียงให้แน่ใจว่าคุณใช้เครื่องคำนวณปริมาณน้ำยาที่พิจารณาค่าน้ำหนัก

ข้อดี

  • ใช้การวัดที่แม่นยำ
  • ใช้อุปกรณ์น้อย
  • ทำให้กระบวนการง่ายขึ้นโดยใช้น้ำหนักมากกว่าปริมาตร

การผสมตามปริมาตร

สำหรับวิธีการผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าตามปริมาตร วิธีนี้นำมาซึ่งการวัดปริมาตรของส่วนผสมแต่ละอย่างโดยใช้ชุดหลอดฉีดยา 1 ชุด ต่อส่วนผสม เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นทำน้ำยาเองเนื่องจาก มีการวัดระดับของเหลวโดยทั่วไปด้วยวิธีนี้อย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตามวิธีการผสมตามปริมาตรมีความแม่นยำน้อยกว่าแบบผสมตามน้ำหนัก และต้องใช้อุปกรณ์จำนวนมาก และต้องรักษาความสะอาดในกระบวนการผสม

ข้อดี

  • ง่ายและตรงไปตรงมา เหมาะสำหรับมือใหม่
  • ไม่มีเรื่อง ความถ่วงจำเพาะ ที่เข้าใจได้ยาก
  • ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องชั่ง เนื่องจากใช้เพียงเข็มฉีดยาเท่านั้น

ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใด ขั้นตอนคำนวณปริมาณส่วนผสมเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากสามารถแปลงแปลงเปอร์เซ็นต์เป็นมล. ซึ่งทำให้ง่ายต่อการผสมสารประกอบอื่นๆ  และเป็นกระบวนการสร้างความแม่นยำสำหรับการใส่ปริมาณนิโคตินเพื่อให้ได้ความเข้มข้นที่คุณต้องการ 

โดยหากคุณจะเลือกใช้วิธีการวัดน้ำหนักที่แม่นยำกว่า หรือใช้วิธีวัดปริมาตรที่ง่ายกว่า ให้ใช้เครื่องคิดเลขช่วยด้วยเสมอเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและสม่ำเสมอทุกครั้ง เพื่อคงความปลอดภัยและความแม่นยำไว้ตลอดกระบวนการผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าในทุกๆ ครั้ง

ใช้เครื่องคำนวณส่วนผสมน้ำยา

เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำและทำซ้ำได้เป็นสูตรสำเร็จเมื่อผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทุกครั้ง การใช้เครื่องคำนวณน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งสำคัญ เครื่องคำนวณเหล่านี้ทำให้กระบวนการทั้งหมดง่ายขึ้นเพียงแค่กรอกให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดลงไป เช่น ปริมาณนิโคตินที่ต้องการเพื่อให้ได้ความเข้มข้นที่คุณต้องการ หรือการวัดส่วนผสมที่แม่นยำ 

ซึ่งเราอยากจะแนะนำ E-liquid-recipes.com (ELR) เว็บและแอปพลิเคชัน ที่ใช้งานได้ทั้งมือถือและบนคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยภายใน ELR มีฐานข้อมูลสูตรน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามากมายและบทความที่คุณสามารถขอคำแนะนำและหารือเกี่ยวกับการทำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้ 24 ชั่วโมง 

หรือเลือกใช้ eJuice Me Up เครื่องคำนวณปริมาณสารผสมออฟไลน์ที่ใช้งานง่ายนี้ช่วยให้คุณบันทึกสูตรน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าของคุณในเครื่องได้ และเพื่อประหยัดเวลาคุณสามารถใช้ค่าเริ่มต้นที่ ELR ให้มาโดยใช้สองเว็บไซต์นี้ร่วมกันก็ย่อมได้

เมื่อใช้เครื่องคำนวณน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเหล่านี้ คุณจะสามารถปรับปรุงกระบวนการผสมน้ำยาของคุณและรับประกันกลิ่นและรสชาติที่แม่นยำและสม่ำเสมอได้ ทดลองกับรสชาติต่างๆ ความแรงของนิโคติน และอัตราส่วนต่างๆ ด้วยความมั่นใจ

เริ่มผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า (ขั้นสูง)

หากตอนนี้คุณมีส่วนผสมและอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมดแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าของคุณเอง ในขณะที่บางคนใช้สัญชาตญาณ หากแต่เราขอแนะนำให้ทำตามสูตรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สามารถทำซ้ำได้ คุณสามารถดูคู่มือสูตรน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าหรือสำรวจฐานข้อมูลสูตรน้ำยายอดนิยมภายใน ELR เช่น Goofy’s Juice หรือ Mother’s Unicorn Milk ซึ่งคุณจะพบส่วนผสมที่ได้คะแนนสูงสุดในเว็บไซต์

สำหรับตัวอย่างนี้ เราลองใช้ส่วนผสม 4 รสชาติง่ายๆ ที่เรียกว่า Strawnana Custard (สตอเบอร์รี่คัสตาร์ด) ซึ่งต้องใช้กลิ่นของ Banana Cream 4% และ Strawberry, Ripe 4% และ Sweet Strawberry 3% และ Vanilla Custard 10% ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของกลิ่นสตอเบอรี่และครีมกล้วยหอม

เมื่อคุณเข้าไปที่เครื่องคำนวณ ELR อันดับแรกเริ่มต้นด้วยการป้อนจำนวนมิลลิลิตร(ml.) ที่ต้องการ (แนะนำให้ใช้ขนาด 50 มล.) 

กรอกความแรงของนิโคตินเป็นมิลลิกรัม (แนะนำกรอก 36 มก.) และอัตราส่วนของเหลวพื้นฐาน (60VG) และหากคุณมีสูตรผสมน้ำยานิโคตินในใจ ให้ระบุความแรงและอัตราส่วนของนิโคตินด้วย 

ในกรณีนี้ เราจะใช้เบสจากนิโคติน PG 100% 36 มก. จากนั้นป้อนเปอร์เซ็นต์ของรสชาติที่คุณจะใช้ หากคุณกำลังปรับสูตรน้ำยาจากฐานข้อมูลของ ELR คุณสามารถข้ามขั้นตอนนี้ได้โดยคลิกที่ไอคอนเครื่องมือสีน้ำเงินแล้วเลือก “ปรับสิ่งนี้” หากคุณต้องการแก้ไขบางส่วนจากสูตรน้ำยายอดนิยมที่คุณเลือก

ปริมาณที่ต้องการของแต่ละส่วนผสมจะแสดงที่ด้านล่างของหน้าใน 3 ช่อง ซึ่งได้แก่ มล., กรัม และ % นอกจากนี้ คุณสามารถดูสถิติน้ำยาของคุณในระบบได้

เมื่อคุณได้คำนวณส่วนผสมทั้งหมดแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มสวมถุงมือแล้วผสม

หากคุณผสมตามน้ำหนัก ให้ดูค่าในช่อง “มก.” เปิดเครื่องชั่ง วางขวดพลาสติก แล้วเพิ่มส่วนผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแต่ละอย่างตามจำนวนที่ระบุ เพิ่มจำนวน “%” หลังจากเพิ่มแต่ละครั้ง เราแนะนำให้ทำตามลำดับซึ่งเรียงจาก นิโคติน รสชาติ VG และ PG เพื่อลดข้อผิดพลาด แต่คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการเมื่อคุณชำนาญแล้ว

หากคุณต้องการผสมตามปริมาตร ให้ใช้ค่าช่อง “มล.” ตามหลักการแล้ว ให้ใช้หลอดฉีดยา 1 หลอดต่อส่วนผสมในอัตราส่วน 1 มก. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีหลอดฉีดยาอย่างน้อยสามหลอดสำหรับสูตรนี้ หนึ่งหลอดสำหรับนิโคติน หนึ่งหลอดสำหรับ VG/PG และอีกหนึ่งหลอดสำหรับสารแต่งกลิ่น

หลังจากนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ทำความสะอาดกระบอกฉีดยาของคุณทุกครั้ง โดยควรใช้น้ำกลั่น และปล่อยให้แห้งสนิท โดยเมื่อใส่ส่วนผสมเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว ให้ปิดฝาขวดแล้วเขย่าแรงๆ สักสองสามนาที คุณจะได้ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทำเองแบบโฮมเมดขวดแรกของคุณ

สิ่งที่ต้องทำหลังจากผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเสร็จ

ติดฉลาก: หลังจากผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทำเองของคุณแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องติดฉลากทันที และใส่ข้อมูลที่สำคัญลงไปข้างขวด เช่น อัตราส่วน VG/PG ระดับนิโคตินเปอร์เซ็นต์ รสชาติ และวันที่สร้าง ขั้นตอนนี้มักถูกมองข้ามโดยมือใหม่ ซึ่งนำไปสู่ความยุ่งยากหากคุณต้องการผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ารสชาติดังกล่าวขึ้นใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ให้จดบันทึกสูตรน้ำยาของคุณในสมุดบันทึก หรือ สเปรดชีตไว้

การสตีฟน้ำยา: การเคี่ยวหรือสตีฟ(Steeping) เป็นกระบวนการที่สำคัญของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทำเอง เนื่องด้วยน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่มีความเข้มข้นต้องใช้เวลาในการผสมผสานรสชาติและตกตะกอนเสียก่อน โดยเวลาสตีฟ(Steeping)จะแตกต่างกันไปในแต่ละส่วนผสม สูตรน้ำยาขนมหวานอาจต้องใช้เวลาถึง 4 สัปดาห์เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด ในขณะที่สูตรน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าธรรมดาอาจไม่จำเป็นต้องสตีฟเลย

ลองน้ำยา: เมื่อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าของคุณเข้มข้นได้ที่แล้วก็ถึงเวลาทดสอบ ทางที่ดีควรใช้บุหรี่ไฟฟ้าแบบหยดคุณภาพสูงหรือพอตที่มีกำลังไฟวัตต์สูงสุดสูงเพื่อทดลองน้ำยา วิธีนี้จะช่วยให้การประเมินรสชาติแม่นยำยิ่งขึ้น ป้องกันการอาการคอยล์ไหม้ หากการทดลองไม่สำเร็จ และทำให้สามารถทดลองตัวอย่างน้ำยาได้เร็วยิ่งขึ้น โปรดทราบว่าค่าความต้านทานและอุณหภูมิเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าอาจส่งผลต่อรสชาติได้อย่างมาก ดังนั้น ทดลองน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าควรใช้กำลังไฟ 80 วัตต์ ขึ้นไป

การเก็บรักษา: ขั้นตอนการเก็บน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบโฮมเมด จะต้องเก็บไว้ในพื้นที่ห่างจากแสงแดด ความร้อน และออกซิเจนเข้าถึง เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อคุณภาพของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าของคุณ และควรเก็บน้ำยาในที่เย็นและมืดหากเป็นไปได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าขวดน้ำยาของคุณอยู่ห่างจากสัตว์เลี้ยงและเด็กเพื่อป้องกันการกลืนกินโดยไม่ตั้งใจ

สรุป

การทำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าด้วยตนเองไม่ใช่เรื่องยาก โดยคุณสามารถทำได้ด้วยการคำนวณสูตรผสม, ผสมส่วนผสม, ทดสอบและเก็บรักษา หากแต่คุณต้องใช้วิจารณญาณในการเลือกส่วนผสมที่เหมาะสมและปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่มั่นใจในการทำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าด้วยตนเอง คุณสามารถซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมใช้งานได้จากร้านค้าน้ำยาพอตและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่น่าเชื่อถือได้เช่นกัน

เขียนโดย เฮียเจแปน

นักรีวิวบุหรี่ไฟฟ้าชาวไทยที่สนใจและตามหาเรื่องราวในรสชาติและผู้คนที่เกี่ยวโยงกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ผ่านควันบุหรี่แต่ละแบบ

#TAG
บทความที่เกี่ยวข้อง
บุหรี่ไฟฟ้า NEXT PRO ยังน่าใช้อยู่ไหมในปี 2025?
NEXT PRO มาพร้อมการออกแบบที่เรียบง่ายและทันสมัย ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก และใช้วัสดุที่มีคุณภาพเพื่อความทนทาน ในด้านเทคโนโลยี NEXT PRO มีแบตเตอรี่ขนาด 400 mAh และกำลังไฟ 10 วัตต์ (10 W) รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี
อ่านต่อ บุหรี่ไฟฟ้า NEXT PRO ยังน่าใช้อยู่ไหมในปี 2025?